ความนิยมในการเลี้ยงน้องแมวสายพันธุ์ต่าง ๆ ในประเทศไทยมีมากขึ้นเป็นอย่างสูงในปัจจุบัน หนึ่งในสายพันธุ์สุดฮิตก็ต้องนึกถึงน้องแมวหูพับแสนน่ารัก สก็อตติช โฟลด์ ซึ่งโรคที่พบได้บ่อยในสก็อตติชโฟลด์ เป็นเรื่องที่เจ้าของน้องแมวสายพันธุ์นี้ต้องรู้เอาไว้เพื่อเตรียมตัวในการดูแลน้องได้อย่างถูกวิธี
โรคเกี่ยวกับระบบกระดูก เอ็น และข้อต่อ
ภาวะข้อเสื่อม (Scottish fold Osteochondrodysplasia; SFOCD)
เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับการกลายพันธุ์ของยีนที่ควบคุมการเจริญเติบโตของกระดูกอ่อน ซึ่งส่งผลต่อกระดูกอ่อนบริเวณใบหู ทำให้ลักษณะของใบหูน้องแมวมีลักษณะหูพับเกิดขึ้น แต่ในน้องแมวบางตัวผลจากการกลายพันธุ์ของยีนนี้เป็นเหตุให้มีการเจริญเติบโตของกระดูกและกระดูกอ่อนส่วนอื่นๆของร่างกายผิดปกติ เช่น กระดูกขาท่อนปลายขาหน้าและขาหลัง กระดูกสันหลัง นิ้วมือ และหาง น้องแมวเป็นโรคนี้จะแสดงลักษณะอาการข้อเสื่อม ซึ่งจะพบความผิดปกติของข้อที่มีการเชื่อมติดกัน จากการเกิดกระดูกงอกออกมาที่บริเวณหาง ข้อเท้าขาหน้าและขาหลัง รวมถึงข้อเข่า น้องแมวจึงแสดงอาการเจ็บ ทำให้น้องแมวไม่อยากลุกเดิน พบท่าทางการเดินที่ผิดปกติ เช่น เดินขาแข็งๆ ไม่งอขา หรือเดินขาแกว่งๆ ในน้องแมวที่พบการอักเสบขอข้องที่รุนแรงมากขึ้น อาจพบการบวมข้อได้ และในน้องแมวที่มีอาการเจ็บปวดรุนแรง สามารถส่งผลต่อการขับถ่ายอุจจาระได้ ทำให้น้องแมวไม่อยากขับถ่าย จนเกิดภาวะท้องผูกตามมา
การวินิจฉัย จะอาศัยข้อมูลจากการซักประวัติ เกี่ยวกับการเดิน พฤติกรรม และการเคลื่อนไหวของน้องแมว การตรวจร่างกาย รวมถึงการถ่ายภาพ x-ray ก็สามารถพบความผิดปกติ เมื่อเกิดภาวะข้อเสื่อม นอกจากนี้การตรวจหายีนที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติก็สามารถตรวจได้เช่นกัน แต่จะต้องมีการเก็บส่งตัวอย่างไปยังต่างประเทศเพื่อทำการตรววจหายีนที่ผิดปกติ
การรักษา สามารถเลือกใช้การรักษาทางศัลยกรรม และการรักษททางยา รวมทั้งการกายภาพบำบัด เพื่อช่วนในการบรรเทาความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น แต่ว่าควรมาพบคุณหมอเฉพาะทางกระดูก เพื่อทำการตรวจประเมินและวางแผนการรักษาก่อน
การป้องกัน สามารถทำได้โดยการหลีกเลี่ยงการผสมพันธุ์น้องแมวที่ลักษณะของใบหูพับ ซึ่งจะช่วยลดโอกาสการถ่ายทอดยีนที่มีความผิดปกติไปยังน้องแมวรุ่นถัดๆ ไป
โรคเกี่ยวกับระบบผิวหนัง
ภาวะช่องหูส่วนนอกอักเสบ (Otitis externa)
เกิดจากลักษณะของใบหูน้องแมวที่มีลักษณะเป็นใบหูตกพับลงมา ทำให้ในช่องหูเกิดการอับชื้น ซึ่งส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเชื้อยีสต์และเชื้อแบคทีเรียซึ่งปกติที่พบได้ตามผิวหนังบริเวณช่องหู และเกิดการเพิ่มจำนวนของเชื้อมากกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อบริเวณช่องหูส่วนนอกตามมา
ในน้องแมวที่พบภาวะช่องหูส่วนนอกอักเสบ จะแสดงอาการคันและเกาหูบ่อย ในน้องแมวบางตัวที่มีการเกาบริเวณใบหูอย่างรุนแรง อาจส่งผลในเส้นเลือดฝอยบริเวณใบหูเกิดการฉีกขาด ทำให้น้ำเลือดออกมาสะสมระหว่างชั้นใต้ผิวหนังและกระดูกอ่อนบริเวณใบหู จึงพบลักษณะใบหูบวมขึ้นกว่าผิดปกติได้ นอกจากนี้อาจพบว่ามีสารคัดหลั่ง เช่น ขี้หูมีสีและกลิ่นผิดปกติ และปริมาณที่มากกว่าปกติออกมาจากช่องหู
หากพบน้องแมวมีลักษณะคันหรือเกาหู แนะนำให้พาน้องแมวมาพบคุณหมอเพื่อตรวจวินิฉัยลักษณะของเซลล์ และเชื้อที่พบในช่องหู รวมถึงวินิจฉัยแยกแยะกับสาเหตุอื่นๆ ซึ่งทำให้เกิดภาวะช่องหูอักเสบ เพื่อวางแผนในการรักษาให้สัมพันธ์กับสาเหตุต่อไป
โรคเกี่ยวกับระบบหมุนเวียนโลหิตและหัวใจ
โรคกล้ามเนื้อหัวใจหนาตัวมากกว่าปกติ (Hypertrophic Cardiomyopathy; HCM)
เป็นโรคหัวใจที่พบได้มากที่สุดในน้องแมว โดยแมวทุกชนิดสามารถเป็นโรคนี้ได้
อาการ มีตั้งแต่น้องแมวไม่แสดงอาการป่วย โดยที่น้องแมงบางตัวสามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่แสดงอาการป่วยไปตลอดชีวิต ไปจนถึงอาการป่วยที่ไม่ได้บ่งชี้ถึงภาวะโรคหัวใจ เช่น เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย และอาการป่วยที่มีสาเหตุมาจากภาวะหัวใจล้มเหลว เช่น ภาวะขาหลังอ่อนแรงเฉียบพลัน หายใจเร็ว หายใจลำบาก ซึ่งภาวะหายใจลำบากอาจเกิดร่วมกับภาวะน้ำท่วมปอด ภาวะแทรกซ้อนที่สามารถพบได้คือ ภาวะลิ่มเลือดอุดตันและภาวะหัวใจล้มเหลว
การตรวจวินิจฉัย สามารถทำได้โดยการ x-ray ช่องอก หรือ การตรวจเลือดด้วยชุดทดสอบ NT-proBNP และการตรวจด้วยการทำการวินิจฉัยยืนยันโรคด้วยการตรวจด้วยการอัลตราซาวด์หัวใจ หรือ echocardiography โดยคุณหมอเฉพาะทางด้านหัวใจต่อไป
แนวทางในการรักษา สามารถทำได้เพียงการรักษาภาวะลิ่มเลือดอุดตันเท่านั้น โดยการให้ยาในกลุ่มต้านการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด ส่วนในกรณีหัวใจล้มเหลวสามารถทำการรักษาด้วยยาในกลุ่มยาขับน้ำ และอาจพิจารณาให้ยาในกลุ่มช่วยเพิ่มการบีบตัวของหัวใจ เพื่อให้หัวใจทำงานได้ดีขึ้น
Commenti